การจัดการโลจิสติกส์โซ่ความเย็นสำหรับผลผลิตทางการเกษตรตามเศรษฐกิจหมุนเวียน

ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศของโลกทวีความรุนแรงมากขึ้น และส่งผลให้ผลิตผลทางการเกษตรลดลง อีกทั้งยังสูญเสียอันเนื่องจากการเน่าเสียง่ายหรือเกิดการสูญเปล่าก่อนที่จะถึงผู้บริโภค ซึ่งสามารถจัดการได้ด้วยโลจิสติกส์โซ่ความเย็น (Cold Chain Logistics) และการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจขององค์กรสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy: CE) ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในระบบเศรษฐกิจ การลดของเสีย และการนำของเสียมาใช้ประโยชน์ในระบบเศรษฐกิจ ได้แก่ 1) การยืดอายุผลิตผล (Product Life Extension) จากการจัดเก็บและขนส่งผลิตผลฯ ด้วยตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นแบบเคลื่อนที่ประสิทธิภาพสูง (ทดแทนตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นเคลื่อนที่แบบทั่วไป) 2) การสร้างแพลตฟอร์มของการแบ่งปัน (Sharing Platform) จากการจัดเก็บและขนส่งผลิตผลฯ ขาไป (Forward Logistics) จากเชียงใหม่มายังภาคใต้ และขากลับ (Reverse Logistics) จากภาคใต้มายังเชียงใหม่ (ทดแทนการขนส่งเที่ยวเปล่า หรือ Backhauling) และ 3) การปรับรูปแบบการขนส่งเป็นทางราง (ทดแทนรูปแบบการขนส่งทางถนน) อันนำมาสู่การลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและต้นทุนตลอดโซ่ความเย็น ตามลำดับ โดยยังคงรักษาความสมบูรณ์ของผลิตผลฯ ด้วยเหตุนี้ การจัดการโลจิสติกส์โซ่ความเย็นสำหรับผลผลิตทางการเกษตรตามเศรษฐกิจหมุนเวียน จึงจำเป็นอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมสนับสนุนเชิงนโยบายและมาตรการของภาครัฐ รวมไปถึงการตัดสินใจของผู้บริหารองค์กรในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจสู่ CE ได้อย่างเหมาะสม โดยเริ่มจากการประเมินความเป็นได้ของอุปสงค์และอุปทานทั้งขาไปและขากลับ และนำผลการประเมินดังกล่าวมาใช้ในการออกแบบระบบโลจิสติกส์โซ่ความเย็นสำหรับผลผลิตทางการเกษตรตาม CE ด้วยเป้าประสงค์ของการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและต้นทุน โดยยังคงรักษาความสมบูรณ์ของผลิตผลไว้ได้