Creating an symbiosis ecosystem between government, industrial and agricultural to build smart city by young coconut sustainable supply chain in Ratchaburi Province for create a model for using agriculture waste to reduce carbon emissions from industrial activities.
Principal Investigator
Co-Investigators
No matching items found.
Other Team Members
Project details
Start date: 17/06/2024
End date: 16/06/2025
Abstract
มะพร้าวน้ำหอมของประเทศไทย เป็นผลไม้ที่ตลาดต่างประเทศมีความต้องการมาก และมีปริมาณการส่งออกเป็นอันดับที่ 2 รองจากทุเรียนในปี พ.ศ. 2565 โดยจังหวัดราชบุรี สมุทรสงคราม เป็นพื้นที่ที่มีปลูกมากที่สุด และในปัจจุบันมะพร้าวน้ำหอมเป็นหนึ่งในสินค้าเกษตรที่ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ของจังหวัดราชบุรี เนื่องจากรสชาตินั้นมีความหอมหวาน ไม่เปรี้ยวซ่า จากข้อมูลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่า พ.ศ. 2565 จังหวัดราชบุรีมีพื้นที่เพาะปลูกมากกว่าร้อยละ 35 ของปริมาณพื้นที่เพาะปลูกรวมทั้งประเทศโดยคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 7.8 พันล้านบาท (เฉพาะที่มีการขึ้นทะเบียน) และมีแนวโน้มที่จะเพาะปลูกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มขยายไปในจังหวัดอื่นในภูมิภาคกลางตอนล่าง ดังนั้น จังหวัดราชบุรีจึงเป็นเหมือนเมืองหลวงของมะพร้าวน้ำหอมของประเทศไทย ทำให้ในพื้นที่จังหวัดราชบุรีมีอุตสาหกรรมในการแปรรูปมะพร้าวน้ำหอมเป็นจำนวนมาก และส่งผลให้ปริมาณของเปลือก กะลา หนวดมะพร้าว จั่นทลาย ที่เหลือจากการผลิต และแปรรูปในปริมาณมากขึ้นตามไปด้วย
จากมะพร้าว 1 ผล เมื่อนำมาแปรรูปจะเหลือของเหลือทิ้งโดยประมาณคิดเป็นร้อยละ 75 ของน้ำหนัก โดยของเหลือใช้จากอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอมที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2566 พบว่า มีเปลือกมะพร้าว และของเหลือใช้จากอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอม กองทิ้งวันละประมาณ 2,000 ตันต่อวัน สำหรับผู้ประกอบการที่มีการขึ้นทะเบียน และยังมีผู้ประกอบการแปรรูปในพื้นที่บ่างส่วนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนที่ยังไม่ได้มีการนับรวม ประกอบกับผู้ประกอบการเหล่านี้ไม่ได้เข้าข่ายโรงงานอุตสาหกรรม จึงทำให้อุตสาหกรรมจังหวัดไม่สามารถเข้ามาควบคุมการดำเนินการจัดการได้ ทำให้ขาดระบบในการบริหารจัดการของเหลือใช้จากเปลือกมะพร้าวที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และส่งผลกระทบโดยตรงทัศนียภาพ สิ่งแวดล้อมทั้งในพื้นที่จังหวัดราชบุรีและพื้นที่ภาคกลางตอนล่างด้วย ปัจุบันพื้นที่ในการแปรรูปในอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอมจะกระจายอยู่ทั่วอำเภอดำเนินสะดวกและอำเภอใกล้เคียงในจังหวัดราชบุรี และมีการขยายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ของเหลือใช้จากอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอมที่ถูกทิ้งตามจุดต่างๆ ทั้งในสวน ข้างโรงงาน ข้างถนน หรือข้างแหล่งน้ำธรรมชาติ มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งการกองทับถมกันจะเกิดการย่อยสลายก็จะส่งกลิ่นรบกวน เกิดก๊าซมีเทนซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกประเภทหนึ่ง และยังมีน้ำเสียไหลลงสู่ลำคลองในพื้นที่ผ่านลงสู่แม่น้ำแม่กลองอีกด้วยทำให้ผลกระทบจากการกองของเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอมมีผลกระทบในวงกว้างทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัย การดำเนินชีวิต หรือผลผลิตทางการเกษตรที่ลดลงจากการเป็นพื้นที่เพาะพันธุ์ด้วงมะพร้าวซึ่งเป็นศัตรูพืชสำคัญ
ปัญหาของเหลือมะพร้าวน้ำหอมที่เกิดขึ้นในอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี คณะอนุกรรมการลุ่มแม่น้ำแม่กลอง สภาอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี อุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการสำรวจถึงสถานการณ์ปัญหาของเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอมในเบื้องต้น พบว่า ในปี 2566 เปลือกมะพร้าวน้ำหอมที่เกิดขึ้นมากว่าวันละ 2,000 ตันต่อวัน และกระจายในหลายพื้นที่จังหวัดราชบุรี และจากแนวทางในการพัฒนาตามแนว BCG ได้มีการส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอมให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น และยังมีการสนับสนุนการใช้ของเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอมแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย เช่น การนำมาเป็นวัสดุปลูก การนำไปทำปุ๋ย การผลิตเป็นกระถางต้นไม้ เป็นต้น โดยรูปแบบการแปรสภาพของเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอมในรูปแบบต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันมีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาในการผลิต และปริมาณที่ใช้ซึ่งเมื่อเทียบกับปริมาณของเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอมที่เกิดขึ้นจริง ยังมีปริมาณการใช้ประโยชน์ไม่ถึงร้อยละ 10 ของปริมาณของเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอมทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ยังสร้างผลกระทบต่อชุมชนอย่างต่อเนื่อง และแพร่ขยายเป็นวงกว้างเพิ่มขึ้น จากปัญหาดังกล่าวข้างต้น ส่วนราชการ สภาหกรรมจังหวัด และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีได้มีการระดมสมอง และนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี เบื้องต้นมาทำการทดลองศึกษาการแปรสภาพของเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอมเป็นชีวมวล พบว่า จากการสร้างแบบจำลองในห้องปฏิบัติการเบื้องต้น สามารถแปรสภาพของเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอมมาเป็นชีวมวล และนำไปทดสอบร่วมกับภาคเอกชนบริษัท นำเชา (ประเทศไทย) จำกัด พบว่า หม้อไอน้ำในบริษัทมีการใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งในการทดลองได้มีการใช้ใย ผสม เปลือกมะพร้าวน้ำหอมในปริมาณร้อยละ 5 โดยน้ำหนัก แต่ยังติดปัญหาเรื่ององค์ประกอบทางเคมี ขนาดของชีวมวล ซึ่งสามารถที่จะนำองค์ความรู้จากมหาวิทยาลัยมาใช้ในการสร้างรูปแบบกระบวนการแปรสภาพ และออกแบบปริมาณการใช้ชีวมวลที่เหมาะสมกับแต่ละอุตสาหกรรมได้อย่างยั่งยืน แต่อาจจะต้องมีการสร้างรูปแบบทางธุรกิจ ทางทดสอบกระบวนการแปรสภาพ นโยบายในการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนมาใช้ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวข้างต้น
จากปัญหาดังกล่าวข้างต้น โครงการวิจัยนี้จะทำการศึกษารวบรวมข้อมูลกิจกรรมทางเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอมในพื้นที่ในทุกมิติ จากนั้น วิเคราะห์ และพัฒนาห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอมในระดับต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ และสร้างโอกาสเชิงพื้นที่ในการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษาแก้ไขปัญหา โดยการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมจากมหาวิทยาลัยมาสร้างกระบวนการในการแปรสภาพของเหลือใช้จากอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอม ร่วมการการสนับสนุนด้านนโยบาย การดำเนินการในพื้นที่จากทุกภาคส่วน ซึ่งต้องมีการสร้างรูปแบบกิจกรรมการลงทุนการแปรสภาพของเหลือใช้จากอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอม เพื่อส่งเสริมการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนของภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่อำเภอดำเนินสะดวก และในจังหวัดราชบุรี ผ่านโมเดลฐานเศรษฐกิจสีเขียว ที่สร้างความยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อม พลังงาน และสร้างอาชีพใหม่ให้กับชุมชน พร้อมทั้งนำองค์ความรู้กลับมาใช้ในการพัฒนาชุมขนในพื้นที่จังหวัดราชบุรีอีกทางหนึ่ง นอกจากนั้นยังเป็นการลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในพื้นที่ ซึ่งจะสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมการใช้ถ่านหินในพื้นที่จังหวักราชบุรีได้ ซึ่งสอดคล้องกับแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน3 สถานบัน และแผนการพัฒนาจังหวัดราชบุรี 2565-2570 ที่แผนในการลดลการใช้ถ่านหิน และการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดราชบุรี นอกจากนั้นยังสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยที่จะลดการใช้เชื้อเพลิงจากถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติในการผลิตกระแสไฟฟ้า และเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดให้มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับกการประชุม COP28 ที่มีเป้าหมายในการลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างจริงจัง เพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากทุกกิจกรรมของมนุษย์ นอกจากนั้นแนวทางการพัฒนาการกระบวนการผลิตของโลกจะเปลี่ยนไปจากห่วงโซ่อุปทาน เป็น ห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน ซึ่งจะมีการเพิ่มการจัดการผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ ร่วมกับการส่งเสริมให้มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีตลอดวัฏจักรชีวิตของสินค้า ซึ่งโครงการนี้จะสามารถส่งเสริมการสร้างเศรษฐกิจสีเขียวที่มีความยั่งยืนกับพื้นที่จังหวัดราชบุรีและจังหวัดใกล้เคียงได้ ด้วยการสร้างการมีส่วนรวมของทุกภาคส่วนในพื้นที่ นโยบายในการสนับสนุนการดำเนินการ การนำองค์ความรู้ และเทคโนโลยีมาใช้ในการแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่ มาใช้การพัฒนารูปแบบกิจกรรมทางธุรกิจที่ส่งเสริมการบริหารจัดการของเหลือใช้จากอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอมที่สามารถลดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในกิจกรรมของอุตสาหกรรม และสร้างองค์ความรู้ ถ่ายทอดแก่ชุมชน เพื่อยกระดับรายได้ และส่งเสริมการผลิตในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืนตามแนวทางการพัฒนาตามแบบ BCG และเศรษฐกิจสีเขียว
Keywords
- การทำงานร่วมกัน
- การปลดปล่อยคาร์บอน
- จังหวัดราชบุรี
- ห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืนของมะพร้าวน้ำหอม
Strategic Research Themes
Publications
No matching items found.