เครือข่ายวิจัยด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและดินในการเกษตรเขตร้อน (ปีที่ 3)
หัวหน้าโครงการ
ผู้ร่วมโครงการ
ไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
สมาชิกทีมคนอื่น ๆ
ไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
รายละเอียดโครงการ
วันที่เริ่มโครงการ: 01/03/2023
วันที่สิ้นสุดโครงการ: 28/02/2024
คำอธิบายโดยย่อ
สารอินทรีย์ในดิน (Soil organic matter; SOM) มีบทบาทสําคัญในการบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเป็นตัวกลางในการกักเก็บคาร์บอนไว้ในดินในรูปของสารอินทรีย์คาร์บอน (Soil organic carbon; SOC) ดังนั้น การจัดการพื้นที่เพาะปลูกเพื่อเพิ่มการกักเก็บคาร์บอนในดินจึงเป็นหนึ่งในวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สามารถช่วยแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศได้ แต่ข้อมูลและองค์ความรู้เกี่ยวกับการประเมินศักยภาพการกักเก็บคาร์บอนในดินในพื้นที่ภูมิอากาศเขตร้อนรวมทั้งประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การศึกษาวิจัยในภาคสนามในระยะยาว ยังมีน้อยมาก นอกจากนี้ การกักเก็บและการปล่อยคาร์บอนในดินยังมีความเชื่อมโยงกับวัฏจักรของไนโตรเจน ดังนั้น การศึกษาในประเด็นดังกล่าวจึงต้องทำควบคู่ไปกับการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของไนโตรเจนในดินด้วย การขาดข้อมูลและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ SOM & SOC ในประเทศไทย ส่งผลให้เกิดช่องว่างองค์ความรู้และขาดข้อมูลในการสนับสนุนการกำหนดเป้าหมายการลดแก๊สเรือนกระจกของประเทศตามความตกลงปารีส (Nationally Determined Contributions; NDC) รวมทั้งทําให้เกิดความไม่แน่นอนในการส่งเสริมการเกษตรที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ด้วยเหตุนี้ โครงการพัฒนาเครือข่ายวิจัยนานาชาติด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและดินในการเกษตรเขตร้อน โปรแกรมวิจัยการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศด้วยการจัดการดินในการเกษตรอย่างยั่งยืน จึงเกิดขึ้นเพื่อเพิ่มความรู้ความเข้าใจและปิดช่องว่างขององค์ความรู้ดังกล่าว เครือข่ายได้พัฒนาขึ้นภายใต้ความร่วมมือของ (1) บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (2) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน (3) กรมวิชาการเกษตร (4) National Agriculture and Food Research Organization (NARO) และ (5) Japan International Research Center for Agricultural Sciences (JIRCAS) โดยมีวัตถุประสงค์ทางวิชาการเพื่อ (1) เพิ่มความเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างการจัดการดินกับอัตราการ mineralization ของคาร์บอนและไนโตรเจนในดิน อัตราการกักเก็บคาร์บอนในดิน และอัตราการปล่อยแก๊สเรือนกระจก (CO2 และ N2O) จากดินการเกษตรในประเทศไทย (2) จำลองการเปลี่ยนแปลงการกักเก็บคาร์บอนในดินและการปล่อยแก๊สเรือนกระจกจากดิน รวมถึงความเป็นไปได้ในการปรับแก้แบบจำลองเพื่อให้สามารถจำลองและประเมินศักยภาพการการกักเก็บคาร์บอนและการปล่อยแก๊สเรือนกระจกจากดินการเกษตรของไทย และ (3) ประเมินศักยภาพการเพิ่มการกักเก็บคาร์บอนในดินและการลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกจากแนวทางการจัดการพื้นที่เกษตรในประเทศไทย (4) นอกจากนี้ ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการทำงานในลักษณะเครือข่ายกับกับหน่วยงานและนักวิจัยในต่างประเทศ แลกเปลี่ยนบุคลากรวิจัย และเพิ่มสมรรถนะนักวิจัยไทย ในขณะเดียวกันโครงการวิจัยนี้ยังมีเพื่อวัตถุประสงค์พัฒนาเครือข่ายวิจัยภายในประเทศและเพื่อพัฒนาศักยภาพของนักวิจัยรุ่นใหม่อีกด้วย
โครงการวิจัยเป็นการดำเนินการต่อเนื่องเป็นที่ 3 โดยยังใช้สถานที่และวิธีการวิจัยเหมือนกับการดำเนินการในปีที่ 2 แต่จะมุ่งเน้นการสังเคราะห์และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อส่งตีพิมพ์ในวารสารที่น่าเชื่อถือ โดยใช้แปลงวิจัยภาคสนามระยะยาวของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชลพบุรี จังหวัดลพบุรี (ปลูกข้าวโพด) และศูนย์วิจัยพืชไร่ระยอง จังหวัดระยอง (ปลูกมันสำปะหลัง) ดินของแปลงทดลองทั้งสองพื้นที่ได้รับการจัดการที่แตกต่างกันด้วยการไถดิน การใช้ปุ๋ย/วัสดุอินทรีย์ และการใช้ปุ๋ยเคมีเป็นระยะเวลา 45 ปี
คำสำคัญ
- การกักเก็บคาร์บอนในดิน, การจัดการดินที่แตกต่างกัน, การหายใจของดิน, การปล่อย N2O, ดินการเกษตรเขตร้อนSoil C sequestration, Different soil managements, Soil respiration, N2O emission, tropical upland soils,
กลุ่มสาขาการวิจัยเชิงกลยุทธ์
ผลงานตีพิมพ์
ไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง