Development of Botanical Biofilter for Dust and VOCs Remediation

มลพิษหมอกควันและสารระเหยที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัยของประชาชนก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจของพื้นที่และส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวรวมถึงบดบังทัศนวิสัยการจราจรทั้งทางบกและทางอากาศ ซึ่งปัจจุบันนี้หนึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน ของประเทศไทยคือการทำฝนเทียมหรือการนำน้ำมาฉีดเพื่อชะล้างฝุ่นละอองขนาดเล็ก อย่างไรก็ตามมีงานวิจัยรายงานว่าแม้ในช่วงที่ฝนตกหนักที่สุด (Heavy rain) เป็นเวลา 3 ชั่วโมง ฝนจะสามารถลดฝุ่นละอองขนาดเล็กลงได้เพียง 8.71 % เท่านั้น (Feng and Wang, 2012) ดังนั้นการใช้น้ำมาฉีดตามจุดต่างของกรุงเทพนอกจากจะเป็นวิธีการที่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายแล้ว ยังให้ประสิทธิภาพการบำบัดฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ต่ำมาก เทคโนโลยีนวัตกรรมสีเขียว (Green & Innovation technology) หรือการสร้างสรรค์ค้นหาและใช้ประโยชน์จากแนวความคิดใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิตของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมไปถึงคนในสังคมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจและกำลังได้รับความสนใจจากทั้งทางภาครัฐ และภาคเอกชน                        

     สอดคล้องกับพันธกิจหลักและความเชี่ยวชาญของศูนย์วิจัย Remediation สถาบันพัฒนาและฝึกอบรมโรงงานต้นแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ที่ดำเนินการศึกษาวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมมามากกว่า 20 ปี มีผลงานด้านการวิจัยเป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาชาติเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในด้านการบำบัดมลพิษอากาศ ศูนย์วิจัย Remediation ได้รับการจัดอันดับความเชี่ยวชาญด้านการใช้พืชบำบัดมลพิษอากาศจาก WoS เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก โดยมีงานวิจัยพรรณพืชพื้นถิ่นที่ปลูกในประเทศไทยที่สามารถบำบัดมลพิษอากาศ อาทิ สารอินทรีย์ระเหยง่ายและฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า 80 ชนิด ปัจจุบันศูนย์วิจัยมุ่งผลักดันนวัตกรรมที่ผ่านการศึกษาวิจัยมาเป็นอย่างดีให้สามารถนำไปใช้งานได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้เกิดเป็นแผนโครงการดังกล่าวขึ้นโดยมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมตัวกรองชีวภาพจากพืชที่มีประสิทธิภาพในการลดฝุ่น PM2.5 สารอินทรีย์ระเหยง่าย และสร้างพื้นที่ปลอดฝุ่นบริเวณภายนอกและภายในอาคารรวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่สาธารณะอย่างเป็นรูปธรรม