การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบไซเบอร์-กายภาพด้วยการประสานงานหลายตัวกระทำการแทนทางอุตสาหกรรม

    ปัจจุบันระบบอัตโนมัติสมัยใหม่ โดยเฉพาะในการผลิตเชิงอุตสาหกรรมมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และระบบอัตโนมัติได้เข้ามามีบทบาทเพื่อสนับสนุนให้เกิดการการสร้างระบบที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ประกอบกับเทคโนโลยีหุ่นยนต์อุตสาหกรรมมีประสิทธิภาพ และต้นทุนที่ถูกลง ทำให้สามารถยกระดับกระบวนการผลิตทั้งแบบระบบการผลิตอัตโนมัติแบบไม่ต่อเนื่อง (Discrete Automation) และระบบการผลิตอัตโนมัติเชิงกระบวนการ (Process Automation) ได้ การยกระดับความสามารถของอุปกรณ์ทางอุตสาหกรรม โดยระบบตัวกระทำการแทนให้มีความยืดหยุ่นได้ (Flexible) โดยมีเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things : IoT) และการประมวลผลหมู่เมฆ (Cloud Computing) ทำให้เกิดการประมวลผลมีประสิทธิภาพสูง และสามารถตรวจสอบ และควบคุม (Monitoring and Control) ได้ อย่างมีประสิทธิภาพเป็นโจทย์ที่มีความท้าทายอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน

    แต่ปัญหาความไม่แน่นอน (Uncertainty) รวมถึงปัจจัยที่มีความแปรปรวนอื่น ๆ ส่งผลต่อเชื่อถือได้ของระบบ (Reliability) เป็นปัญหาที่ต้องการแก้ไข เพราะเป้าหมายของการผลิตในอุตสาหกรรมมีความต้องการควบคุมได้อย่างแม่นยำ ในขณะที่การดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ทางการผลิตอุตสาหกรรมดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง กลับมีปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่หลากหลายเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งแปรผันตามสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน อันเนื่องมากจากระบบอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งขาดความน่าเชื่อถือได้เชิงระบบ และหากต้องการสร้างระบบการทำงานร่วมกันอัจฉริยะ เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งจะเข้ามามีบทบาทให้การสื่อสารข้อมูลบนระบบไซเบอร์-กายภาพ (Cyber-Physical Systems: CPS) ที่มีความเฉพาะเจาะจงสามารถพัฒนาต่อยอดเพื่อสนับสนุนระบบอัตโนมัติ