การทำนายประวัติเวลาความเครียดการคืบของตาข่ายเสริมกำลังพอลิโพรไพลีนด้วยการทดสอบการคลายความเค้นที่เร่งด้วยอุณหภูมิ

Conference proceedings article


ผู้เขียน/บรรณาธิการ


กลุ่มสาขาการวิจัยเชิงกลยุทธ์


รายละเอียดสำหรับงานพิมพ์

รายชื่อผู้แต่งรวิวาร เอกอินทุมาศ และวรัช ก้องกิจกุล

ปีที่เผยแพร่ (ค.ศ.)2022

หน้าแรกGTE41-1

หน้าสุดท้ายGTE41-10

ภาษาThai (TH)


บทคัดย่อ

ในปัจจุบันโครงสร้างดินเสริมกำลังด้วยวัสดุเสริมแรงสังเคราะห์มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ซึ่งวัสดุเสริมแรงสังเคราะห์โพลีเมอร์ในการใช้งานส่วนใหญ่จะรับแรงกระทำคงค้าง ดังนั้นพฤติกรรมที่ควรให้ความสำคัญคือพฤติกรรมการคืบ การทดสอบการคืบด้วยวิธีปกติทำเพื่อศึกษาพฤติกรรมการคืบของวัสดุ แต่วิธีนี้ใช้ระยะเวลาในการทดสอบนาน จึงได้มีการพัฒนาวิธีการทดสอบที่ใช้อุณหภูมิเพื่อเร่งการคืบการทดสอบแบบนี้หากใช้ระยะเวลาประมาณ 24 ชั่วโมง จะสามารถทำนายประวัติเวลาความเครียดการคืบระยะยาวได้ นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอวิธีการทำนายประวัติเวลาการคืบของวัสดุเสริมแรงสังเคราะห์โพลีเมอร์จากความเครียดไม่คืนกลับการคลายความเค้นอีกด้วย ผลการวิจัยในอดีตพบว่า ประวัติเวลาการคลายความเค้น 3 ชั่วโมง สามารถทำนายประวัติเวลาการคืบได้ถึง 8 ชั่วโมง ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ทั้งวิธีการเร่งการเกิดพฤติกรรมการคืบด้วยอุณหภูมิและวิธีการทำนายประวัติเวลาการคืบจากประวัติเวลาความเครียดไม่คืนกลับการคลายความเค้นใช้ระยะเวลาการทดสอบที่สั้นแต่สามารถทำนายประวัติเวลาการคืบระยะยาวได้ ในงานวิจัยนี้จึงได้นำทั้งสองวิธีมาประยุกต์รวมกัน โดยทำการทดสอบการคืบแบบเร่งด้วยอุณหภูมิด้วยวิธี Stepped isothermal method (SIM) และทำการทดสอบการคลายความเค้นแบบเร่งด้วยอุณหภูมิด้วยวิธี Time-temperature superposition (TTS) จากผลการทดสอบและวิเคราะห์พบว่า การทดสอบการคลายความเค้นที่เร่งด้วยอุณหภูมิด้วยระยะเวลาการทดสอบรวม 12 ชั่วโมง จะได้ประวัติเวลาความเครียดไม่คืนกลับการคลายความเค้นประมาณ 115 ชั่วโมง ซึ่งทำให้สามารถทำนายประวัติเวลาความเครียดการคืบได้เท่ากับ 348 ชั่วโมง หรือสามารถประหยัดเวลาการทดสอบได้ประมาณ 29 เท่า


คำสำคัญ

ไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง


อัพเดทล่าสุด 2023-03-01 ถึง 23:05