คอนกรีตกำลังสูงที่ใช้มวลรวมรีไซเคิลผ่านการปรับปรุงด้วยวิธีคาร์บอเนชั่น
Conference proceedings article
ผู้เขียน/บรรณาธิการ
กลุ่มสาขาการวิจัยเชิงกลยุทธ์
รายละเอียดสำหรับงานพิมพ์
รายชื่อผู้แต่ง: อามีน เบ็ญอะฮ์หมัด, ปกป้อง รัตนชู, อรรคเดช อับดุลมาติน, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร และ ชัย จาตุรพิทักษ์กุล
ปีที่เผยแพร่ (ค.ศ.): 2022
หน้าแรก: MAT20-1
หน้าสุดท้าย: MAT20-8
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้เป็นการศึกษากำลังอัด โมดูลัสยืดหยุ่น และการหดตัวแบบแห้งของคอนกรีตกำลังสูงที่ใช้ปูนซีเมนต์ผสมเถ้าถ่านหินเป็นวัสดุประสาน ในอัตราส่วนผสม 75:25 โดยน้ำหนัก และแทนที่มวลรวมหยาบธรรมชาติ (NCA) ด้วยมวลรวมหยาบรีไซเคิล (RCA) ที่ผ่านการปรับปรุงด้วยกระบวนการคาร์บอเนชั่น 3 วิธี ได้แก่ วิธีที่ 1 นำมวลรวมหยาบรีไซเคิลอบด้วย โดยตรง (RC) วิธีที่ 2 นำมวลรวมหยาบรีไซเคิลที่ผ่านการแช่สารละลายแคลเซียมคาร์ไบด์แล้วอบด้วย (RCC) และวิธีที่ 3 นำมวลรวมหยาบรีไซเคิลที่ผ่านการแช่สารละลายแคลเซียมคาร์ไบด์ผสมเถ้าถ่านหินแล้วอบด้วย (RCCF) ซึ่งทั้งสามวิธีทำการอบด้วย ที่ระยะเวลา 1, 3 และ 7 วัน จากนั้นนำ RCA ที่มีสมบัติทางกายภาพที่ดีของแต่ละวิธีมาใช้เป็นมวลรวมหยาบในส่วนผสมของคอนกรีต ผลการวิจัยพบว่า การปรับปรุง RCA ทั้งสามวิธีสามารถเพิ่มคุณภาพ RCA ตั้งแต่ระยะเวลาการอบ ที่ 1 วัน และระยะเวลาการอบที่ 7 วัน ให้สมบัติทางกายภาพดีที่สุด ส่วนวิธีการปรับปรุงที่ดีที่สุดคือ วิธี RCCF เมื่อเทียบกับการปรับปรุงอีก 2 วิธี และเมื่อนำ RCA ของแต่ละวิธีที่มาใช้เป็นส่วนผสมของคอนกรีต พบว่า ที่อายุ 28 วัน คอนกรีตที่ใช้มวลรวม RC, RCC และ RCCF มีค่ากำลังอัดสูงกว่าคอนกรีตที่ใช้มวลรวม RCA ที่ไม่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพร้อยละ 6, 12 และ 14 และค่าโมดูลัสยืดหยุ่นมีค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 2, 5, และ 9 ตามลำดับ นอกจากนี้การใช้มวลรวม RCA ที่ผ่านการปรับปรุงด้วยกระบวนการคาร์บอเนชั่นมีส่วนช่วยให้คอนกรีตมีค่าการหดตัวแบบแห้งที่ลดลง
คำสำคัญ
ไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง