การเพิ่มประสิทธิภาพสายการประกอบ PUMP MODULE สําหรับอุตสาหกรรมยานยนต์
Conference proceedings article
ผู้เขียน/บรรณาธิการ
กลุ่มสาขาการวิจัยเชิงกลยุทธ์
รายละเอียดสำหรับงานพิมพ์
รายชื่อผู้แต่ง: ปาวสิทธิ์ ปุจฉาการ, วิวิธวินท์ เสพสมุทร, ลักษิกา โอนอ่อน และ สุรศักดิ์ สุรนันทชัย
ปีที่เผยแพร่ (ค.ศ.): 2022
หน้าแรก: 2891
หน้าสุดท้าย: 2901
จำนวนหน้า: 11
ภาษา: Thai (TH)
บทคัดย่อ
ในปัจจุบันธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าในฝั่ งยุโรปมีการเติบโตที่สูงขึ้น ซึ่ งส่งผลให้มีการย้ายฐานการผลิต รถยนต์ที่ใช้ระบบเครื่องสันดาปภายใน (Internal Combustion Engine) เข้ามาในฝั่ งเอเชียมากขึ้น และทําให้เกิด การแข่งขันด้านต้นทุนของธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ใช้สําหรับเครื่ องยนต์สันดาป ในงานวิจัยนี้จึงมี วัตถุประสงค์เพื่อลดต้นทุนและเพิ่ มประสิทธิภาพสายการประกอบ Pump module ซึ่งในสายการประกอบมีพนักงาน 9 คน และมี Pump module109 รุ่น ซึ่งศึกษาเฉพาะรุ่นที่มีการผลิตตั้ งแต่80% ขึ้นไป และกาหนดเวลาในการเปลี่ยน ํ รุ่น 63 วินาทีต่อครั้ง จากการจับเวลาที่สายการผลิตพบวาจากรุ่น 2HX-GASไป 2HU ใช้เวลาในการเปลี่ยนรุ่นเกินจาก เวลาที่กาหนด นั่นคือ ่ 140 วินาทีต่อครั้ง จึงทําการวิเคราะห์หาสาเหตุโดยใช้แผนผังกางปลา และโปรแกรม ้ ORiN พบว่าต้นทุนในการผลิตส่วนมากเกิดขึ้นจากการใช้กําลังคน การเปลี่ยนรุ่นของชิ้ นส่วน รวมไปถึงขั้นตอน กระบวนการในการผลิตมีกิจกรรมที่ทําให้เกิดความสูญเปล่า (Muda) ผู้จัดทําจึงได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นหลักการปรับปรุงขั้นพื้นฐาน ECRS ได้แก่ การจัดสมดุลการผลิตด้วยหลักการเปลี่ยนขั้นตอนการปฏิบัติงานและการปรับปรุงกระบวนการผลิต (Kaizen) เนื่องจากหลังจากที่มีการสลับการปฏิบัติงานของพนักงานแล้วใน กระบวนการผลิตยังเกิดเวลาการสูญเปล่า (Muda) เช่น การเดินของพนักงาน และนําหลักการกาจัดงานที่ไม่จําเป็น (Eliminate All Unnecessary Work) มาใช้ โดยเสนอให้มีการทําที่เก็บอุปกรณ์กาหนดตําแหน่งของชิ้นงาน (Jig) ใต้เครื่องจักรของพนักงาน เพื่อลดเวลาในการเดินไปหยิบ jig ในที่ที่จัดเก็บไว้
คำสำคัญ
ไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง