ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออาหารผ่านสื่อสังคมออนไลน์บนเฟซบุ๊ก: กรณีศึกษากลุ่มเฟซบุ๊ก "ของกินพร้อมส่ง พระราม 2 - บางขุนเทียน - ท่าข้าม

งานวิจัยเรื่อง ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออาหารผ่านสื่อสังคมออนไลน์บนเฟซบุ๊ก: กรณีศึกษากลุ่มเฟซบุ๊ก “ของกิน
พร้อมส่ง พระราม 2 – บางขุนเทียน - ท่าข้าม” มีวัตถุประสงค์การวิจัย (1) เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยด้านลักษณะประชากร และพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้ออาหารผ่านสื่อสังคมออนไลน์บนกลุ่มเฟซบุ๊ก (2) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีต่อการตัดสินใจซื้ออาหารผ่านสื่อสังคมออนไลน์บนกลุ่มเฟซบุ๊ก (3) ปัจจัยของทัศนคติต่อการซื้อขายออนไลน์ที่มีต่อการตัดสินใจซื้ออาหารผ่านสื่อสังคมออนไลน์บนกลุ่มเฟซบุ๊ก และ (4) ปัจจัยด้านความพึงพอใจต่อการซื้อขายออนไลน์ที่มีต่อการตัดสินใจซื้ออาหารผ่านสื่อสังคมออนไลน์บนกลุ่มเฟซบุ๊ก การศึกษาครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงสำารวจ โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง จำานวน 400 คน โดยการสุ่มอย่างง่าย และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปทางสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียวและสหสัมพันธ์ถดถอยพหุคูณ
ผลการวิจัยพบว่า (1) ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนแตกต่างกัน มีผลต่อการตัดสินใจซื้ออาหารผ่านสื่อสังคมออนไลน์บนกลุ่มเฟซบุ๊กแตกต่างกันอย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (2) ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีพฤติกรรมแตกต่างกันมีผลต่อการตัดสินใจซื้ออาหารผ่านสื่อสังคมออนไลน์บนกลุ่มเฟซบุ๊กแตกต่างกัน สำาหรับบุคคลที่เป็นผู้ให้ข้อมูล คำาแนะนำเพื่อการตัดสินใจซื้ออาหารบนกลุ่มเฟซบุ๊ก (Facebook group) และรูปแบบการชำาระเงินที่ท่านเลือกใช้ในการซื้ออาหารบนกลุ่มเฟซบุ๊ก (Facebook group) ที่แตกต่างกัน มีผลต่อการตัดสินใจซื้ออาหารผ่านสื่อสังคมออนไลน์บนกลุ่มเฟซบุ๊กแตกต่างกันอย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (3) ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด ด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจำาหน่าย ด้านการส่งเสริมการตลาด และด้านกายภาพ ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออาหารผ่านสื่อสังคมออนไลน์บนกลุ่มเฟซบุ๊ก อย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (4) ทัศนคติต่อการซื้อขายออนไลน์ ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออาหารผ่านสื่อสังคมออนไลน์บนกลุ่มเฟซบุ๊กอย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ (5) ความพึงพอใจต่อการซื้อขายออนไลน์ ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออาหารผ่านสื่อสังคมออนไลน์บนกลุ่มเฟซบุ๊ก อย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติที่ระดับ .05