การใช้รังสีแกมมาเพื่อยับยั้งการงอกและรักษาคุณภาพตะไคร้สด
บทความในวารสาร
ผู้เขียน/บรรณาธิการ
กลุ่มสาขาการวิจัยเชิงกลยุทธ์
รายละเอียดสำหรับงานพิมพ์
รายชื่อผู้แต่ง: Kanlaya Sripong, Thanwalee Srinon, Pongphen jitareerat, Prakaidao Yingsanga
ปีที่เผยแพร่ (ค.ศ.): 2023
วารสาร: วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (0858-4435)
Volume number: 31
Issue number: 5
หน้าแรก: ุ51
หน้าสุดท้าย: 66
นอก: 0858-4435
URL: https://li01.tci-thaijo.org/index.php/tstj/article/view/258468
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาประสิทธิภาพของรังสีแกมมาต่อการยับยั้งการงอกและรักษาคุณภาพตะไคร้สด ทำโดยคัดเลือกตะไคร้ที่ปราศจากตำหนิ นำตะไคร้มาลอกเอากาบนอกออก และตัดแต่งให้มีความยาววัดจากโคนต้นขึ้นมาประมาณ 12 นิ้ว จากนั้นนำไปฉายรังสีแกมมาปริมาณ 0 (ชุดควบคุม) 100 200 และ 300 Gy บรรจุตะไคร้แต่ละทรีตเมนต์ในถุงพลาสติกชนิด Low Density Polyethylene (LDPE) และเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 21 วัน (จำลองการเก็บรักษา) และย้ายออกมาเก็บที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 4 วัน (จำลองการวางจำหน่าย) พบว่าการฉายรังสีแกมมาปริมาณ 100 200 และ 300 Gy สามารถยับยั้งการงอกของยอดตะไคร้ได้ โดยรังสีทั้ง 3 ความเข้มข้น สามารถยับยั้งการงอกของตะไคร้ได้ไม่แตกต่างกันทางสถิติ แต่เมื่อพิจารณาคุณภาพของตะไคร้ พบว่าการฉายรังสีปริมาณ 200 Gy สามารถชะลอการเปลี่ยนแปลงสีของตะไคร้ได้ดีที่สุด และการฉายรังสีปริมาณ 200 และ 300 Gy ช่วยลดการเกิดสีน้ำตาลบริเวณรอยตัดที่ปลายยอดและโคนกาบใบได้ดี ส่งผลให้ตะไคร้มีคะแนนการยอมรับของผู้บริโภค (ด้านสี และ คุณภาพโดยรวม) สูงกว่าชุดควบคุม อย่างไรก็ตามการฉายรังสีแกมมาทุกความเข้มข้นมีผลทำให้การผลิตเอทิลีนของตะไคร้ลดลง แต่ไม่มีผลต่ออัตราการหายใจ ปริมาณวิตามินซี และความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี DPPH จากข้อมูลที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ารังสีแกมมามีประสิทธิภาพในการยับยั้งการงอกและช่วยรักษาคุณภาพของตะไคร้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฉายรังสีปริมาณ 200 Gy มีแนวโน้มที่จะช่วยรักษาคุณภาพของตะไคร้ได้ดีที่สุด สามารถยืดอายุการเก็บรักษาตะไคร้ที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส ได้นาน 21 วัน และหลังจากย้ายออกมาวางที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ได้นาน 2 วัน (21 + 2 วัน)
คำสำคัญ: ตะไคร้; รังสี; การยับยั้งการงอก; การเกิดสีน้ำตาล
คำสำคัญ
ไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง