การหาสภาวะที่เหมาะสมแบบค่าตอบสนองหลายตัวของกระบวนการอบชุบแข็งด้วยความร้อนสาหรับโลหะผสมอะลูมิเนียมผสม-เหล็กที่ผสมกระป๋องเครื่องดื่มอะลูมิเนียมที่ใช้แล้ว

Conference proceedings article


ผู้เขียน/บรรณาธิการ


กลุ่มสาขาการวิจัยเชิงกลยุทธ์


รายละเอียดสำหรับงานพิมพ์

รายชื่อผู้แต่งTawatchai Tangsuksan, Chumpol Yuangyai, Phromphong Pandee, Chaowalit Limmaneevichitr, Suwaree Chankitmunkong

ปีที่เผยแพร่ (ค.ศ.)2024

หน้าแรก520

หน้าสุดท้าย528

จำนวนหน้า9


บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มุ่งเสนอการศึกษาพารามิเตอร์ของกระบวนการอบชุบแข็งด้วยความร้อนที่มีผลต่อสมบัติด้านความแข็ง และการต้านทานการกัดกร่อนของอะลูมิเนียมผสมไฮเปอร์ยูเทคติคเหล็กที่ผสมกระป๋องเครื่องดื่มอะลูมิเนียม 75% โดยน้าหนัก ซึ่งธาตุผสม เช่น Mg, Si และ Cu ที่มาจากเศษกระป๋องซึ่งสามารถช่วยเพิ่มความแข็งภายหลังผ่านกระบวนการทางความร้อน ในงานวิจัยนี้ได้ประยุกต์วิธีการทางสถิติโดยออกแบบการทดลองแบบ 24 แฟกทอเรียล ซึ่งกาหนดปัจจัยศึกษา 4 ปัจจัย ได้แก่ อุณหภูมิการอบละลาย, เวลาการอบละลาย, อุณหภูมิการบ่มแข็ง และเวลาการบ่มแข็ง จากการวิเคราะห์ความแปรปรวน พบว่า ปัจจัยอุณหภูมิและเวลาของการอบละลายไม่มีผลอย่างมีนัยสาคัญต่อตัวแปรตอบสนอง ในขณะที่ปัจจัยอุณหภูมิและเวลาของการบ่มแข็งมีผลอย่างมีนัยสาคัญต่อทุกตัวแปรตอบสนอง จากการวิจัยพบว่า พารามิเตอร์ที่เหมาะสมคือ อุณหภูมิการบ่มแข็งที่ 150 ºC และที่เวลา 8 ชั่วโมง ซึ่งมีผลต่อค่าตัวแปรตอบสนองตามเป้าหมายสูงที่สุด ทั้งนี้ปัจจัยของการอบละลายที่ไม่มีผลสาคัญอาจเกิดจากปริมาณธาตุผสมที่เพียงพอกับความสามารถของการละลายในเนื้ออะลูมิเนียมทั้งหมดที่อุณหภูมิต่ากว่าขอบเขตการศึกษา และปัจจัยที่มีผลสาคัญต่อตัวแปรตอบสนองทุกตัวคือ ขั้นตอนการบ่มแข็ง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการตกตะกอนเฟสทุติภูมิ Mg2Si ที่มีความสาคัญต่อการปรับปรุงสมบัติความแข็ง ในขณะเดียวกันหากอนุภาคตกตะกอนนี้มีขนาดใหญ่เกินไปอาจนาไปสู่การสูญเสียสมบัติความต้านทานการกัดกร่อนของอะลูมิเนียมผสมได้


คำสำคัญ

Al-Fe alloyAluminum alloyDesign of Experiment


อัพเดทล่าสุด 2024-05-06 ถึง 00:00