สมบัติเชิงกลของคอนกรีตมวลเบากำลังสูงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ใช้เถ้าก้นเตาแทนที่ปูนซีเมนต์และมวลรวม

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อประเมินสมบัติเชิงกลของคอนกรีตมวลเบา
กำลังสูงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ใช้เถ้าก้นเตาแทนที่ปูนซีเมนต์และมวล
รวม โดยนำเถ้าก้นเตาที่ได้จากโรงไฟฟ้ามาแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยการร่อน
ผ่านตะแกรง ได้แก่ 1) เถ้าก้นเตาที่ร่อนผ่านตะแกรงมาตรฐานเบอร์ 4
นำไปบดละเอียดสำหรับแทนที่ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกในอัตราร้อยละ 50 โดย
น้ำหนัก 2) เถ้าก้นเตาที่ร่อนผ่านตะแกรงมาตรฐานเบอร์ 4 เพื่อใช้แทนที่
มวลรวมละเอียดในอัตราร้อยละ 100 โดยปริมาตร และ 3) เถ้าก้นเตาที่
ร่อนผ่านตะแกรงมาตรฐานขนาด ½ นิ้ว และค้างบนตะแกรงมาตรฐานเบอร์
4 เพื่อแทนที่มวลรวมหยาบในอัตราร้อยละ 25, 50, 75 และ 100 โดย
ปริมาตร คอนกรีตทุกส่วนผสมใช้ปริมาณวัสดุประสานเท่ากับ 600 กก/ม3
ใช้อัตราส่วนน้ำต่อวัสดุประสานคงที่เท่ากับ 0.25 และควบคุมค่าการยุบตัว
ให้อยู่ในช่วง 15 – 20 ซม. โดยใช้สารลดน้ำพิเศษ จากการศึกษาพบว่าเถ้า
ก้นเตาสามารถแทนที่ปูนซีเมนต์และมวลรวมในปริมาณมากได้ เพื่อผลิต
คอนกรีตมวลเบากำลังสูง โดยมีค่ากำลังอัดที่ 28 วันมากกว่า 40 เมกะปาสคาล
มีปริมาตรรูพรุนร้อยละ 25 ความหนาแน่นต่ำกว่า 1920 กก/ม3 มีการนำ
ความร้อนอยู่ที่ 0.45 วัตต์ต่อเมตร-เคลวิน นอกจากนี้การแทนที่มวลรวม
ด้วยเถ้าก้นเตาทำให้น้ำหนักของคอนกรีตลดลงและกำลังอัดของคอนกรีต
ลดลง