การเพิ่มความสามารถในการขึ้นรูปขอบรูโดยการปรับปรุงคุณภาพของขอบรูเจาะด้วยกระบวนการตัดเชฟ
Conference proceedings article
ผู้เขียน/บรรณาธิการ
กลุ่มสาขาการวิจัยเชิงกลยุทธ์
รายละเอียดสำหรับงานพิมพ์
รายชื่อผู้แต่ง: จิราพร ศรีประเสริฐ, กุศล พร้อมมูล, รัชนี ไพศาล, นพดล คุ้มอนุวงศ์, พรรณี ใจหล้า, กฤติกา เกิดส่ง และ ทิพวรรณ เดชเมือง
ปีที่เผยแพร่ (ค.ศ.): 2024
ชื่อชุด: The 38th Conference of Mechanical Engineering Network of Thailand
หน้าแรก: 426
หน้าสุดท้าย: 433
จำนวนหน้า: 8
URL: https://www.tsme.org/me-nett/me-nett2024/
ภาษา: Thai (TH)
บทคัดย่อ
การขึ้นรูปขอบรู (Hole Flanging) เป็นกระบวนการหนึ่งที่มักเกิดปัญหาการฉีกขาดจากขอบรูเจาะ โดยทั่วไปกระบวนการเจาะรูด้วยพันช์จะมีผลต่อค่าความสามารถในการขึ้นรูปขอบรู เนื่องจากพื้นผิวบริเวณขอบรูไม่สม่ำเสมอ ซึ่งประกอบด้วยส่วนโค้งมน ส่วนเรียบตรง ส่วนแตกหัก และครีบ งานวิจัยนี้ได้ทำการปรับปรุงคุณภาพของขอบรูเจาะด้วยกระบวนการตัดเชฟ (Shaving Process) โดยใช้สเตปเทเปอร์พันช์มุมเอียง 6 องศา ระยะเผื่อการตัดเชฟ (Shaving Allowance) 2%, 5% และ 15% ของความหนาชิ้นงาน และช่องว่างแม่พิมพ์ (Clearance) 0.5%, 1% และ 2% ของความหนาชิ้นงาน วัสดุที่ใช้ในการทดลองเป็นโลหะแผ่นขาวรีดเย็น (SPCC) หนา 1 มิลลิเมตร จากการทดลองพบว่าในเงื่อนไขที่ใช้ช่องว่างแม่พิมพ์น้อย (≤0.5%T) การใช้ระยะเผื่อการตัดเชฟที่มีขนาดเล็กจะให้คุณภาพผิวของขอบรูเจาะที่ดีกว่า เงื่อนไขที่ใช้ระยะเผื่อการตัดเชฟที่มีขนาดใหญ่ จะทำให้คุณภาพผิวของขอบรูเจาะแย่ ขอบรูเจาะที่มีคุณภาพผิวที่ดี (มีส่วนเรียบตรงมาก) จะส่งผลให้มีความสามารถในการขึ้นรูปขอบรูสูง และการวางชิ้นงานแบบคว่ำครีบลง (วางครีบไว้ฝั่งพันช์) จะช่วยให้มีความสามารถในการขึ้นรูปขอบรูมากกว่าการวางชิ้นงานแบบหงายครีบขึ้น (วางครีบไว้ฝั่งดาย)
คำสำคัญ
ไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง