การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบปรับอากาศแบบ VRF : กรณีศึกษา อาคารประเภทโรงพยาบาล

จากปัญหาสภาวะโลกร้อนที่ทั่วโลกกำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ ส่งผลให้อุณหภูมิของอากาศแวดล้อมมีทิศทางเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ดังนั้นความต้องการใช้ระบบปรับอากาศในกิจการต่างๆ จึงเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

ประเทศไทยเป็นอีกประเทศที่มีความต้องการใช้งานระบบปรับอากาศเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นประเทศที่มีสภาวะอากาศร้อนชื้น ประกอบกับได้รับอิทธิพลจากสภาวะโลกร้อนด้วยเช่นกัน จึงทำให้มีความจำเป็นในการใช้งานระบบปรับอากาศเพิ่มมากขึ้น ทั้งธุรกิจกิจการต่างๆ รวมไปถึงการบริการทางด้านสาธารณสุข ที่ต้องใช้ระบบปรับอากาศในการให้บริการและดูแลผู้ป่วย ซึ่งอากาศที่ร้อนมากขึ้นนอกจากจะส่งผลต่อความต้องการใช้งานระบบปรับอากาศแล้ว ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบปรับอากาศให้ลดต่ำลง ซึ่งมีผลต่อการสิ้นเปลืองพลังงานและเป็นปัจจัยเสริมในการเกิดสภาวะโลกร้อนเป็นวัฏจักรต่อเนื่องต่อไปอีก

ดังนั้นในงานวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นศึกษาและหาแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพในระบบปรับอากาศของอาคารในโรงพยาบาลตัวอย่างแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่มีการใช้งานระบบปรับอากาศแบบ VRF จากติดตั้งที่ไม่เหมาะสมให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ด้วยการลดอุณหภูมิอากาศที่ใช้ในการระบายความร้อน โดยอ้างอิงค่าสมรรถนะและประสิทธิภาพจากผู้ผลิต ซึ่งผลจากการศึกษาพบว่า อาคารในโรงพยาบาลตัวอย่างมีศักยภาพในการลดอุณหภูมิอากาศที่ใช้ระบายความร้อนได้เฉลี่ย 5.8 °C และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในรูปของกำลังไฟฟ้าต่อตันความเย็น (CHP) ให้กับระบบปรับอากาศได้สูงถึง 18.1%