การลดปริมาณของเสียประเภทเม็ดที่เกิดขึ้นในการผลิตสีผง: กรณีศึกษาในประเทศไทย

ในการผลิตสีผงประเภทโพลีเอสเตอร์ของโรงงานกรณีศึกษาแห่งหนึ่งพบของเสียที่เกิดจากปัญหาเม็ดสี (Bits) คิดเป็นร้อยละ 49.82 ของปริมาณของเสียทั้งหมด ส่งผลโดยตรงต่อผลิตภาพและต้นทุนในการผลิต ดังนั้น งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดของเสียประเภทเม็ดในกระบวนการผลิตสีผงชนิด Polyester-TGIC-HG และหาแนวทางในการลดร้อยละของปริมาณของเสีย ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดปัญหาเม็ดสี ได้แก่ วิธีการล้างทาความสะอาดเครื่องฉีดสี การตั้งค่าความเร็วรอบสกรู และอุณหภูมิในการฉีดสี งานวิจัยนี้ได้ดาเนินการทดลองเพื่อศึกษาผลกระทบของตัวแปรทั้งสามนี้ ได้แก่ วิธีการล้างเครื่องฉีด (Open/No Open) อุณหภูมิที่ใช้ในการฉีดสี (50, 60 และ 80 องศาเซลเซียส) และความเร็วรอบสกรู (400 และ 500 รอบต่อนาที) ตัวแปรตอบสนองคือค่าร้อยละของของเสียประเภทเม็ด ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนพบว่า การเปลี่ยนแปลงของค่าปัจจัยทั้งสามมีผลอย่างมีนัยสาคัญต่อค่าร้อยละของของเสียที่ได้ การเปิดล้างเครื่องฉีดร่วมกับการใช้อุณหภูมิในการฉีดสีที่ 60 องศาเซลเซียส และความเร็วรอบสกรู 400 รอบต่อนาที เป็นเงื่อนไขที่เหมาะสมที่สุดที่ทาให้ได้ค่าร้อยละของของเสียต่าที่สุด โดยร้อยละของของเสียประเภทเม็ดลดลงจาก 49.82 เหลือ 13.87 คิดเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพลดของเสียประเภทเม็ดลงร้อยละ 72.2 นอกจากนี้ การปรับสภาวะที่เหมาะสมยังช่วยลด ค่าใช้จ่ายในการ Rework รายเดือนจาก 25,708.02 บาท เหลือ 18,795.68 บาท คิดเป็นการลดค่าใช้จ่าย 26% ซึ่งแสดงถึงประโยชน์เชิงเศรษฐศาสตร์ของการปรับปรุงกระบวนการนอกเหนือจากการลดของเสีย
คาสาคัญ : สีผง, ของเสียประเภทเม็ด, การวิเคราะห์ความแปรปรวน