การพัฒนาสมบัติด้านลูมิเนสเซนส์ของซินทิลเลเตอร์ผลึกเดี่ยวเพื่อใช้เป็นเซนเซอร์วัดรังสีในอุปกรณ์สร้างภาพเพื่อวินิจฉัยโรคทางการแพทย์

การพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านรังสีและการตรวจวัดรังสีมีความสำคัญต่อการรักษาโรคและการวินิจฉัยโรคทางการแพทย์อย่างยิ่งยวด ทั้งด้านรังสีรักษาและรังสีวินิจฉัย  ผู้ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์มุ่งเน้นถึงความถูกต้องและแม่นยำของเครื่องมือทางการแพทย์ ทั้งเครื่องมือทางรังสีรักษาและรังสีวินิจฉัย เพื่อลดโอกาสในการวินิจฉัยโรคที่ผิดพลาดและป้องกันอันตรายจากการใช้รังสี รวมถึงเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้จากสาเหตุที่แท้จริงโดยไม่เกิดอันตราย เครื่องมือแพทย์ที่มีการสร้างภาพ (Medical imaging device) ด้วยรังสีเพื่อการวินิจฉัย ได้ถูกคิดค้นและนำมาประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคและการใช้รังสีในการวินิจฉัยโรคยังคงมีการใช้งานและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง     โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องมือวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ที่มีการสร้างภาพ (Medical imaging device) ด้วยรังสีเพื่อการวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ ซึ่งพัฒนาขึ้นด้วยสองวัตถุประสงค์หลักได้แก่ 1) เพื่อศึกษาถึงโครงสร้างทางกายภาพ (In-vivo anatomic) และ 2) การมองภาพการทำงานของอวัยวะภายใน (Functional visualization) องค์ประกอบสำคัญของเครื่องมือทางการแพทย์ดังการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดคือตัวตรวจจับรังสี (Radiation detector) ซึ่งนิยมใช้วัสดุซินทิลเลชัน (Scintillation materials) เป็นองค์ประกอบสำคัญ

โครงการวิจัยนี้จึงมุ่งเป้าในการพัฒนาวัสดุซินทิเลเตอร์ชนิดใหม่ให้มีประสิทธิภาพสูง โดยมุ่งพัฒนาวัสดุซินทิเลเตอร์ถูกผลิตแบบผลึกเดี่ยว (Single Crystal) ที่มีองค์ประกอบแบบมัลติคอมโพแนนท์การ์เน็ต ซึ่งเป็นวัสดุซินทิเลเตอร์ที่มีจุดเด่นคือ มีค่ายีลด์แสงที่สูง ตอบสนองรังสีเร็ว ทนทานต่อความชื้น และ มีการสร้างง่าย เหมาะกับการนำไปใช้เป็นตัวตรวจจับในเครื่องมือแพทย์ที่มีการสร้างภาพ รวมถึงมีความหนาที่เพียงพอในการหยุดยั้งพลังงานของรังสีที่มากกว่า 150 keV ขึ้นไป เพื่อให้เหมาะกับการนำไปใช้เป็นวัสดุตรวจจับรังสีในเครื่องมือแพทย์ที่มีการสร้างภาพด้วยรังสีพลังงานสูงเช่น CT-scan, PET scan, SPECT scan, Gamma camera เป็นต้น