เทคโนโลยีการก่อสร้างขั้นสูงและยั่งยืนสำหรับ Thailand 4.0 (ปีงบประมาณ 2567)

โครงการนี้มุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยการวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีก่อสร้างขั้นสูงสำหรับประเทศไทยในยุค 4.0 และเพื่อเป็นการรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศไทยที่มีศักยภาพที่จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (New Growth Engine) รวมถึงเพื่อรองรับการพัฒนาเมืองในอนาคตให้มีความยั่งยืน ในมิติต่างๆ ทั้งทางด้านเทคโนโลยีวัสดุ การออกแบบโครงสร้างสาธารณูปโภคแบบอัจฉริยะ เทคนิคธรณี สถาปัตยกรรม พลังงานและสิ่งแวดล้อม ฯลฯ องค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีก่อสร้างขั้นสูงที่พัฒนาขึ้น จะสามารถทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางองค์ความรู้ นวัตกรรม และการพัฒนาบุคลากรผู้นำในอนาคตทางด้านเทคโนโลยีก่อสร้างสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ โดยจะเน้นการพัฒนางานวิจัยชั้นแนวหน้าในกลุ่มเทคโนโลยีหลักๆ ได้แก่

1) โครงสร้างพื้นฐานสำหรับอนาคตและกลศาสตร์การคำนวณ (Future Infrastructure and Computational Mechanics) งานวิจัยในกลุ่มนี้จะมุ่งเน้นการสร้างงานวิจัยและนวัตกรรมขั้นสูงเพื่อตอบสนองงานโครงสร้างพื้นฐานสำหรับอนาคต เป็นการประยุกต์ใช้กลศาสตร์การคำนวณขั้นสูงกับงานวิเคราะห์ ออกแบบ และประเมินโครงสร้างพื้นฐาน การติดตามสภาพและการซ่อมแซม เทคโนโลยีการก่อสร้าง และการป้องกันภัยพิบัติ ตลอดจนการอนุรักษ์โบราณสถานอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ

2) เทคโนโลยีวัสดุเพื่อการใช้งาน และการก่อสร้างในอนาคต (Functional Materials for Future Construction) ครอบคลุมงานวิจัยเกี่ยวกับ 3D Printing วัสดุซ่อมแซมตัวเองและวัสดุสมรรถนะสูง วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวล้อม (Eco-Friendly)

3) การก่อสร้างใต้ดินสำหรับอนาคตครอบคลุมการใช้วัสดุงานดินที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Future Underground Construction and Green Geomaterials) โครงสร้างใต้ดินสำหรับพลังงาน และการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในการทำนายและการออกแบบ

4) เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับงานก่อสร้างในอนาคต (Digital technology for future construction) ครอบคลุมงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ การใช้เทคโนโลยีการสแกนวัตถุสามมิติ การใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายร่วมกับอากาศยานไร้คนขับ การพัฒนาเนื้อหาดิจิทัลในรูปแบบ VR AR และ MR ตลอดจนการพัฒนาระบบ AI ที่สามารถเชื่อมโยงเข้ากับเครือข่ายจักรวาลนิรมิตร (Metaverse) โดยมุ่งการประยุกต์ใช้กับการตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานและงานนวัตกรรมเพื่อการก่อสร้างในอนาคต