การประยุกต์ใช้องค์ความรู้และเทคโนโลยีทางวิศวกรรมเพื่อการอนุรักษ์วัดไทย กรณีศึกษาวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร

โครงการวิจัยนี้มีเป้าหมายหลัก 3 ประการ ประการแรกเป็นการนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมเพื่อการอนุรักษ์โบราณสถานซึ่งคณะผู้วิจัยได้ดำเนินการสำเร็จลุล่วงแล้วและเป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนมาต่อยอดการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมดิจิทัล โดยจะนำกระบวนการสำรวจด้วยเทคโนโลยีการสแกนวัตถุ 3 มิติ มาใช้ร่วมกับการบูรณาการองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ และโบราณคดีเพื่อจัดทำข้อมูลดิจิทัล 3 มิติของวัดไทยผ่านกรณีศึกษาวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหารที่สามารถนำไปต่อยอดสู่การทำเนื้อหาดิจิทัลเพื่อการอนุรักษ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในรูปแบบความเป็นจริงผสม (AVR Reality) ประการที่สองเป็นการนำองค์ความรู้ด้านกลศาสตร์การคำนวณขั้นสูง องค์ความรู้ด้านบริหารจัดการน้ำ องค์ความรู้ด้านเทคนิคธรณีและวิศวกรรมโครงสร้างมาใช้ร่วมกับเทคโนโลยีการสแกนวัตถุ 3 มิติเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และกระบวนการใหม่สำหรับการวิเคราะห์ประเมินความเปราะบางและความเสี่ยงของโบราณสถานประเภทวัดไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหว และอุทกภัย โดยผลที่ได้จากการศึกษาเชิงลึกในส่วนนี้จะเป็นต้นแบบกระบวนการรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ปัญหา และการกำหนดแนวทางในการอนุรักษ์วัดไทยในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้อย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไปในอนาคต ประการสุดท้ายจะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเครือข่ายบูรณาการศาสตร์ทางด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม และโบราณคดี ที่จะทำให้ได้ความร่วมมือและกระบวนการเชิงนโยบายที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาสภาพความเป็นอยู่ของสังคมเมืองในอนาคตให้สามารถมีความเจริญก้าวหน้าควบคู่ไปกับการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของประเทศชาติได้อย่างยั่งยืน ผลผลิตที่ได้จากโครงการนี้จะสามารถนำไปต่อยอดสู่การจัดทำเนื้อหาดิจิทัลเชิงสร้างสรรค์เพื่อให้กลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่และผู้ที่สนใจงานในด้านวิศวกรรมเพื่อการอนุรักษ์ได้สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ทางวิชาการในเชิงลึกผ่านเทคโนโลยีความเป็นจริงผสม (AVR Reality) ซึ่งจะสร้างผลกระทบในด้านการอนุรักษ์โบราณสถานตลอดจนส่งเสริมการพัฒนามูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมดิจิทัล