การวิเคราะห์ความเป็นไปไดข้องห่วงโซ่อุปทานแบบหมุนเวียนกรณีศึกษาฟักทองญี่ปุ่น
Conference proceedings article
ผู้เขียน/บรรณาธิการ
ไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสาขาการวิจัยเชิงกลยุทธ์
รายละเอียดสำหรับงานพิมพ์
รายชื่อผู้แต่ง: Wimonnat Kruahong, Kanokporn Kungwalsong
ปีที่เผยแพร่ (ค.ศ.): 2022
ภาษา: Thai (TH)
บทคัดย่อ
การบริโภคในรูปแบบของห่วงโซ่อุปทานที่เป็นแบบเส้นตรง(Linear Model) ในปัจจุบันเป็นการทําลายทรัพยากรเป็นอย่างมาก หาก ไม่มีการแก้ไขจะส่งผลเสียให้สิ่งแวดล้อมในเวลาอันใกล้นี้ ในปัจจุบันมีการนําแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน(Circular Economy)มา ปรับใช้กับห่วงโซ่อุปทาน เกิดเป็นห่วงโซ่อุปทานแบบหมุนเวียน(Circular Supply Chain) เพื่อนําส่วนที่ไม่ใช้ประโยชน์จาก อุตสาหกรรมหนึ่ง ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยการเป็นวัตถุดิบในการผลิตในอีกอุตสาหกรรมหรือผลิตภัณฑ์อื่น ภาคการเกษตรเป็นส่วน หนึ่งที่มีของเสียในสัดส่วนสูง โดยในงานวิจัยนี้เป็นการศึกษาห่วงโซ่อุปทานของฟักทองญี่ปุ่นในพื้นที่สูงจังหวัดเชียงใหม่ เป็นแหล่งที่ เกษตรกรมีการปลูกฟักทองเป็นพืชหลัก พื้นที่อยู่ที่ระดับความสูง 500-1250 เมตร ในปัจจุบันมีการแปรรูปตัดแต่งผลฟักทองเพื่อส่ง เนื้อฟักทองให้แก่ร้านอาหาร กระบวนการแปรรูปนี้เกิดขยะทางการเกษตรได้แก่ เปลือก เนื้อส่วนตัดแต่ง และเมล็ด งานวิจัยนี้จึงได้ ทําการศึกษาความเป็นไปได้ของการหมุนเวียนในโซ่อุปทานเมล็ดฟักทองญี่ปุ่น โดยเสนอการใช้เมล็ดฟักทองญี่ปุ่นในการหมุนเวียน มาสกัดเป็นน้ํามันเมล็ดฟักทองญี่ปุ่น การศึกษาความเป็นไปได้สําหรับห่วงโซ่อุปทานแบบหมุนเวียนและความเป็นไปได้ในการลงทุน กรณีศึกษาฟักทองญี่ปุ่น พบว่าหากมีการลงทุนสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสําหรับน้ํามันเมล็ดฟักทองญี่ปุ่น 736,678.8 บาท ต่อปี จุดคุ้มทุนของการสกัดน้ํามันเมล็ดฟักทองญี่ปุ่นอยู่ที่ 1,227 ลิตร สามารถคืนทุนได้ในระยะเวลา 0.74 ปี เมื่อลงทุนในการสกัด น้ํามันเมล็ดฟักทอง 1 บาท ได้ผลตอบแทนกลับมาบาท (Benefit cost ratio) 1.58 เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าตัวชี้วัดให้ผลไปใน ทิศทางเดียวกัน คืออัตราผลตอบแทนถัวเฉลี่ยมีค่า 5.39 มูลค่าปัจจุบันสุทธิ 823,143 บาท ดัชนีการทํากําไร 5.11 (มีค่ามากกว่า1) และอัตราผลตอบแทนที่แท้จริง 133% โครงการสามารถลดปริมาณขยะฝังกลบ 7,488 กิโลกรัมต่อปี กระจายมูลค่าให้เกษตรกร 149,760บาทต่อปี
คำสำคัญ
ไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง