การศึกษาภาวะผู้นำสำหรับผู้ประกอบการและการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ส่งผลต่อความได้เปรียบทางการแข่งขันของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จังหวัดกาญจนบุรี

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลของภาวะความเป็นผู้นำสำหรับผู้ประกอบการ และการสร้างสรรค์นวัตกรรม ที่ส่งผลต่อความได้เปรียบทางการแข่งขันของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จังหวัดกาญจนบุรี และศึกษาความสอดคล้องของโมเดลภาวะผู้นำสำหรับผู้ประกอบการและการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ส่งผลต่อความได้เปรียบทางการแข่งขันของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จังหวัดกาญจนบุรี กับข้อมูลเชิงประจักษ์ เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูล จากนั้นทำการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 450 คน จากกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง โดยใช้สถิติทางการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระโดยใช้ค่าสหสัมพันธ์เพียร์สัน และสถิติการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง ผลการวิจัยพบว่า โมเดลหลังจากผู้วิจัยทำการปรับปรุงและพัฒนาขึ้นมีความสอดคล้องของโมเดลกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยมีค่าดัชนีความสอดคล้อง ดังนี้ Chi-square = 22.456, df = 20, Chi-square/df = 1.123, P-Value = 0.316, GFI = 0.990, NFI = 0.993, CFI = 0.999, RMSEA = 0.017 และ RMR = 0.004  และจากผลการทดสอบโมเดลสมการโครงสร้างภาวะผู้นำสำหรับผู้ประกอบการ และการสร้างสรรค์นวัตกรรม ที่ส่งผลต่อความได้เปรียบทางการแข่งขันของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จังหวัดกาญจนบุรี พบว่า
ภาวะผู้นำสำหรับผู้ประกอบการ มีอิทธิพลทางตรงเชิงบวก ต่อความได้เปรียบทางการแข่งขันของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จังหวัดกาญจนบุรี และภาวะผู้นำสำหรับผู้ประกอบการ มีอิทธิพลทางอ้อม
เชิงบวก โดยผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่อความได้เปรียบทางการแข่งขันของวิสาหกิจขนาดกลาง
และขนาดย่อม จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้สำหรับการวางแผนเพื่อพัฒนาคุณภาพและศักยภาพของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จังหวัดกาญจนบุรี ให้มีความรู้ ความสามารถ และศักยภาพที่เพียงพอต่อความต้องการและทันต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต