การผลิตปุ๋ยอนุภาคขนาดนาโนเมตรที่มีคีเลตเพปไทด์จากโปรตีนไฮโดรไลเซทพืช

โปรตีนไฮโดรไลเสทจากพืชประกอบด้วยกรดอะมิโน และเพปไทด์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชได้ดี (Biostimulant) แต่ในส่วนประกอบนั้นไม่มีธาตุอาหารรอง (micronutrient) ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช อย่างไรก็ตามเมื่อเกษตรกรนำไปใช้กับพืชปลูก ยังต้องมีการใส่ปุ๋ยเคมีและธาตุอาหารต่างๆ ให้กับพืช ส่วนใหญ่เกษตรกรมักใช้ปุ๋ยเคมีในปริมาณมากเกินความสามารถของพืชในการดูดไปใช้และการเปลี่ยนรูปสารเคมีเพื่อให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตที่สูง ซึ่งเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่าย มากไปกว่านั้นการใช้ปุ๋ยเคมีปริมาณมากเป็นเวลานานมีผลต่อสภาพแวดล้อม เกิดการสะสมในดินทำให้คุณสมบัติดินเสื่อมลงหรือถูกชะล้างสู่แหล่งน้ำส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ของสัตว์น้ำ แต่การเติมธาตุอาหารโดยตรงลงในโปรตีนไฮโดรไลเสทนั้น ทำให้เกิดการตกตะกอนแยกชั้นและอนุภาคขนาดใหญ่ที่ใช้งานได้ยาก ดังนั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยเคมีและลดปัญหาดังกล่าวข้างต้น แนวทางในการทำพัฒนานวัตกรรมการผลิตคีเลตเพปไทด์ที่มีปุ๋ยอนุภาคขนาดนาโนเมตรจากโปรตีนไฮโดรไลเสทพืช โดยการใช้นาโนเทคโนโลยีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สารกระตุ้นการเจริญพืชด้วยการเสริมธาตุอาหารพืชชนิดใหม่ นวัตกรรมนาโนนี้เป็นการลดขนาดของธาตุอาหารเช่น แคลเซียม โบรอน และซิลิคอน ให้มีขนาดอนุภาคระดับนาโนเมตร ด้วยเทคนิคทางกลและทางเคมี เพื่อในเกิดการ cross-link กัน หลังจากจึงนั้นผสมลงในโปรตีนไฮโดรไลเสท (สารกระตุ้นพืชที่มีเพปไทด์และกรดอะมิโนเป็นส่วนประกอบ) เพื่อเพิ่มและเสริมประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์โปรตีนไฮโดรไลเสท โดยโปรตีนไฮโดรไลเสททำหน้าที่นอกจากเป็นสารกระตุ้นการเจริญพืช ยังเป็นตัวนำส่งธาตุอาหารอนุภาคนาโนเมตรเข้าสู่ระบบลำเลียงอาหาร ทำให้พืชดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ดี ช่วยควบคุมการปลดปล่อยธาตุอาหาร ช่วยกระตุ้นการทำงานในระบบต่างๆ ให้สมบูรณ์ ทำให้พืชสามารถสังเคราะห์แสงได้ดี และสร้างภูมิต้านทานต่อโรคและแมลง อีกทั้งยังช่วยให้พืชทนต่อสภาวะต่างๆ ได้อีกด้วย

เนื่องจากการทำการเกษตรในสถานการณ์ปัจจุบันเกษตรกรจำเป็นต้องลดต้นทุนในการผลิต ขณะเดียวกันต้องควบคุมคุณภาพของผลผลิต การฉีดพ่นโปรตีนไฮโดรไลเสท (สารกระตุ้นพืช) ที่มีส่วนผสมของธาตุอาหารอนุภาคขนาดนาโนเมตร (Nano fertilizer) เช่น Nano calcium, boron, silicon ช่วยให้พืชสามารถดูดธาตุอาหารทางใบหรือทางดินไปใช้ประโยชน์ในการเจริญเติบโตได้เร็ว จากโครงสร้างนาโนของธาตุอาหารช่วยเพิ่ม dispersibility, wettability และ stability ของสารอาหาร ซึ่งเป็น Nano Agrotechnology ที่มีประสิทธิภาพในการนำส่งธาตุอาหารเข้าสู่ใบพืชและต้นพืชได้ดี ซึ่งมีศักยภาพตรงกับความต้องการของเกษตรกรด้วยประโยชน์ที่สูงสุด ลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีที่มากเกินไป และการสูญเสียไปกับบริเวณดินโดยรอบ ส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืน ตลอดจนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดภาวะโลกรวน (climate change) สอดคล้องกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในปัจจุบัน และตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของประชากร ซึ่งปลอดภัยทั้งต่อเกษตรกรและผู้บริโภค