การสกัดสารเซราไมด์จากรำข้าวเพื่อใช้เป็นสารออกฤทธิ์ทางผิวหนังเชิงเวชสำอาง


หัวหน้าโครงการ


ผู้ร่วมโครงการ


สมาชิกทีมคนอื่น ๆ

ไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง


รายละเอียดโครงการ

วันที่เริ่มโครงการ18/01/2021

วันที่สิ้นสุดโครงการ17/01/2022


คำอธิบายโดยย่อ

เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจเครื่องสำอางค์มีอัตราการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น และยังมีแนวโน้เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องสำอางค์ที่ได้จากผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ประกอบกับประเทศไทยมีข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจหลัก และในกระบวนการสีข้าวเพื่อให้ได้เป็นข้าวสารนั้น เกิดผลพลอยได้ คือ รำข้าว มีมูลค่าต่ำประมาณ 6-8 บาท ในรำข้าวที่เหลือทิ้งยังคงมีไขมันเหลืออยู่ประมาณร้อยละ 20 ซึ่งมีเซราไมด์เป็นองค์ประกอบหลัก ในส่วนผสมของเครื่องสำอางค์ระดับพรีเมี่ยมมีส่วนผสมของสารเซราไมด์ (Ceramide) ซึ่งมีความสามารถในการเป็นสารออกฤทธิ์ทางเวชสำอาง และในผิวหนังของคนพบเซราไมด์เป็นส่วนประกอบอยู่ในชั้นหนังกำพร้าเช่นกัน สารเซราไมด์ทำหน้าที่ช่วยให้ผิวหนังอุ้มน้ำได้ดี ตัวเชื่อมเคราตินให้เกิดการเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ ช่วยปกป้องให้ผิวแข็งแรง และทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น เป็นต้น โดยสารเซราไมด์พบมากในพืช เช่น ข้าว ข้าวสาลี ถั่วเหลือง สับปะรด และผักโขม เป็นต้น แต่จะพบปริมาณมากในข้าว ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมเซราไมด์ได้โดยการซึมผ่านผิวหนังและการดูดซึมในระบบย่อยอาหาร แต่อย่างไรก็ตามการรับประทานข้าวเพื่อให้ได้เซราไมด์ที่มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ทำให้ต้องรับประทานข้าวในประมาณมากเกินความจำเป็น ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สารสกัดเซราไมด์หรือรับประทานสารสกัดเซราไมด์โดยตรง น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเสริมเซราไมด์ให้กับผิวได้ แต่ในการสกัดเซราไมด์หรือสารสำคัญอื่น ๆ จากพืช ส่วนใหญ่จะใช้ตัวทำละลายออแกนิค ซึ่งเป็นสารเคมี มีอันตราย และเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันเริ่มมีการสกัดด้วยเทคนิค Supercritical CO2 และการสกัดด้วยไฟฟ้า แต่ข้อเสียคือใช้เครื่องมือราคาแพง ทำให้ต้นทุนในกระบวนการสกัดสูงขึ้น และอาจสูญเสียคุณภาพของสารสำคัญไปโดยการใช้ความร้อน ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงศึกษาการสกัดสารเซราไมด์จากรำข้าวเหลือทิ้งจากโรงงานสกัดน้ำมันรำข้าวด้วยเทคโนโลยี ultrasound assisted extraction เพื่อใช้เป็นสารออกฤทธิ์ทางผิวหนังเชิงเวชสำอาง และประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิว ซึ่งงานวิจัยนี้ยังสามารถพัฒนาต่อยอดในระดับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางจากสารสกัดจากธรรมชาติ อีกทั้งยังก่อให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมการแปรรูปข้าวไทย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ข้าวไทย ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่ารำข้าวซึ่งเป็นของเหลือทิ้งได้อย่างมหาศาล สามารถลดการนำเข้าสารเซราไมด์จากต่างประเทศซึ่งมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 230,000 บาท และสามารถลดปัญหามลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมได้  


คำสำคัญ

ไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง


กลุ่มสาขาการวิจัยเชิงกลยุทธ์


ผลงานตีพิมพ์

ไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง


อัพเดทล่าสุด 2025-07-02 ถึง 13:59