การผลิตไซโลโอลิโกแซคคาไรด์จากข้าวสำหรับเป็นส่วนผสมเชิงหน้าที่ในอาหารและเครื่องสำอาง

การผลิตข้าวเปลือก 1,000 กิโลกรัม มีปริมาณฟางข้าว น้ำหนัก 1,300 กิโลกรัม องค์ประกอบของใยหยาบของฟางข้าวประกอบด้วยเซลลูโลส เฮมิเซลลูโลส และลิกนิน 30-35, 25-30 และ 15-20% ตามลำดับ ปัจจุบันฟางก้อนน้ำหนักก้อนละ 20 กิโลกรัม จำหน่ายได้ราคา ก้อนละ 15 บาท ซึ่งฟางข้าวส่วนใหญ่ถูกนำไปผลิตเป็นอาหารสัตว์ ใช้เป็นเชื้อเพลิง ผลิตปุ๋ย และเอทานอล เป็นต้น แต่โครงสร้างเฮมิเซลลูโลสของฟางข้าวมีโครงสร้างแบบกลูคูโรโนอะราบิโนไซแลน (glucuronoarabinoxylan structure) เป็นโครงสร้างที่พบในหญ้า และธัญพืช สามารถนำมาสกัดได้ไซโลโอลิโกแซคคาไรด์ ซึ่งราคาของไซโลโอลิโกแซคคาไรด์บริสุทธิ์มีราคาขายอยู่ที่ประมาณ 2,000-5,000 บาทต่อ 1 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ ดังนั้นหากสามารถผลิตไซโลโอลิโกแซคคาไรด์ โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ในประเทศช่วยทำให้ต้นทุนในการผลิตลดลงและทำให้เกิดความคุ้มทุนทางเศรษฐกิจในการผลิตไซโลโอลิโกแซคคาไรด์มากขึ้น นอกจากนี้คุณสมบัติของไซโลโอลิโกแซคคาไรด์ที่มีโครงสร้างที่แข็งแรงสามารถทนต่อสภาวะกรดและเอนไซม์ในระบบย่อยอาหารได้ดีกว่าโอลิโกแซคคาไรด์ชนิดอื่นๆ เช่น ฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ (fructooligosaccharides; FOS) และโอลิโกแซคคาไรด์จากถั่วเหลือง (soy oligosaccharides; SOS) ซึ่งสามารถส่งเสริมการเจริญของเชื้อโพรไบโอติก (probiotics) อย่างเชื้อ Bifidobacteria ได้ดี นอกจากการนำไปใช้ประโยชน์ทางด้านอาหารแล้ว การนำโอลิโกแซคคาไรด์มาใช้ทางด้านผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางโดยพบว่าสามารถกระตุ้นและเพิ่มการแบ่งตัวของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ให้สร้างคอลลาเจน (Collagen Synthesis) และสร้างอีลาสติน (Elastin) ซึ่งจะทำให้ริ้วรอยของผิวหน้าลดลง และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวหน้าได้มากขึ้น แต่ยังไม่มีรายงานการนำไซโลโอลิโกแซคคาไรด์ไปใช้ ดังนั้นงานวิจัยนี้ศึกษาการสกัดไซโลโอลิโกแซคคาไรด์จากฟางข้าวข้าวด้วยวิธีทางกายภาพและชีวภาพ เพื่อหาสภาวะที่เหมาะสมในการผลิตไซโลโอลิโกแซคคาไรด์สำหรับนำไปใช้ในอาหารและเครื่องสำอาง ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตเหลือทิ้งทางการเกษตรต่อไป