การสกัดสารให้สีและสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากเซียนท้อเป็นส่วนผสมอาหารเพื่อสุขภาพต้านโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง


หัวหน้าโครงการ


ผู้ร่วมโครงการ

ไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง


สมาชิกทีมคนอื่น ๆ


รายละเอียดโครงการ

วันที่เริ่มโครงการ01/10/2021

วันที่สิ้นสุดโครงการ30/09/2022


คำอธิบายโดยย่อ

สังคมไทยในยุคปัจจุบัน มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีความเร่งรีบในการเดินทาง และบริโภคอาหารจาน
ด่วน มีความเอาใจใส่เรื่องของสุขภาพลดน้อยลง ทาให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จาเป็นต่อร่างกาย ได้รับสารอาหาร
ไม่ครบ 5 หมู่ ส่งผลต่อภาวะโรคอ้วน และเป็นสาเหตุของกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรค
ความดันโลหิตสูง เป็นต้น ซึ่งกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตไม่น้อยกว่า 36 ล้านคนทั่วโลกในแต่
ละปี หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 63 ของสาเหตุการตายทั้งหมด สาหรับประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อ
เรื้อรังถึงร้อยละ 75 หรือประมาณ 320,000 คนต่อปี ส่วนมากเป็นกลุ่มประชากรวัยทางาน
เซียนท้อมีสารพฤกษเคมีที่สาคัญที่เป็นสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ได้แก่ สารประกอบฟีนอลิกและฟลาโว
นอยด์ ที่มีสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีแคโรทีนอยด์ที่สาคัญคือ zeaxanthin ให้สีเหลืองส้ม ซึ่งพบน้อยในพืช
ผลไม้ชนิดอื่น สามารถใช้เป็นสารเติมแต่งสีธรรมชาติในอาหาร และมีคุณสมบัติที่ดีต่อสายตา รวมทั้งเนื้อผลเซียนท้อ
มีเนื้อสัมผัสที่หวานมันคล้ายอะโวกาโด และยังไม่มีรายงานถึงชนิดและปริมาณกรดไขมัน แต่คาดว่าน่าจะเป็นโอเมก้า
3 โอเมก้า 6 และโอเมก้า 9 ซึ่งเป็นไขมันที่ดีในผลไม้ ตลอดจนคุณสมบัติต่างๆ สามารถนาเซียนท้อมาเป็นสารเติม
แต่งอาหารเชิงหน้าที่ อาหารเสริมสุขภาพ โดยเฉพาะในการเป็นสารต้านเบาหวานชนิดที่ 2 รวมทั้งต้านความดัน
โลหิตสูง จากการที่เซียนท้อมีราคาไม่แพง กิโลกรัมละ 10 บาท มีการบริโภคในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือและ
ภาคเหนือของไทย และลาว การบริโภคเซียนท้อให้ได้ปริมาณสารสาคัญที่เพียงพอนั้นต้องบริโภคปริมาณมากทาให้
ได้รับสารอื่นๆ ปริมาณมากไปด้วย เช่น น้าตาล ดังนั้นจึงควรนาเซียนท้อมาสกัดเพื่อให้ได้สารสาคัญต่างๆ อย่างไรก็
ตามวิธีการสกัดสารสาคัญจากเซียนท้อยังมีรายงานน้อยมาก แต่การได้มาซึ่งสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากพืชนั้น
ขึ้นอยู่กับสภาพการปลูก วิธีการเก็บเกี่ยว การเก็บรักษาหลังการเก็บเกี่ยว รวมทั้งวิธีการสกัดสารโดยวิธีการสกัดที่
เหมาะสมมีผลต่อการได้รับสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่ต้องการ การสกัดสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากพืชมีหลากหลาย
วิธีทั้งการใช้สารเคมี ได้แก่ maceration และการสกัดด้วยวิธี soxhlet ซึ่งยังคงใช้เป็นวิธีการอ้างอิงของวิธีสกัดแบบ
ใหม่ ซึ่งการสกัดนี้ใช้ตัวทาละลาย (solvents) ในการสกัดซึ่งต้องใช้ปริมาณมาก จึงอาจเกิดปฏิกิริยาข้างเคียงและมี
สารเคมีตกค้าง ส่งผลต่อการนาไปใช้เป็นส่วนผสมของอาหารและเครื่องสาอาง (Carla และคณะ, 2013) ตามบัญญัติ
ขององค์การอาหารและยา ปี 2560 อนุญาตให้ใช้เฉพาะน้าและแอลกอฮอล์ในการสกัดเท่านั้น ซึ่งอาจไม่เหมาะสม
กับสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่เป็นสารไม่มีขั้ว จึงมีการใช้วิธีการสกัดทางกายภาพ มาใช้ร่วมด้วย ได้แก่ ultrasound
assisted extraction (UAE) การใช้เอนไซม์ในการสกัด (enzyme-assisted extraction; EAE) และการสกัดแบบ
microwave-assisted extraction (MAE) นอกจากนี้ยังมีการสกัดด้วย supercritical fluid extraction (SFE) และ
การสกัดอีกวิธีหนึ่งคือ pressurized liquid extraction (PLE)
ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงสนใจศึกษาวิธีการสกัดสารพฤกษเคมี สารให้สี ส่วนผสมเชิงหน้าที่จากเซียนท้อด้วยตัวทา
ละลาย (น้าและเอทานอล) ร่วมกับวิธีทางกายภาพ ultrasound assisted extraction (UAE) และพัฒนาเป็น
อาหารพร้อมบริโภคสาหรับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ใหญ่วัยทางาน ที่มีภาวะเร่งรีบในการดาเนินชีวิตในปัจจุบัน
และบริโภคอาหารจานด่วนทาให้ขาดสารอาหารที่จาเป็นต่อร่างกาย ส่งผลต่อภาวะโรคอ้วน และโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
ทั้งนี้เป็นการเพิ่มทางเลือกในการบริโภคสารสกัดเซียนท้อ นอกจากมีผลต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ยังช่วยส่งเสริมการ
มองเห็น บารุงสายตา อีกทั้งเป็นการส่งเสริมลดการนาเข้าสารสกัดจากพืช เป็นการเพิ่มมูลค่าของเซียนท้อ ที่มีการ
ปลูกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ อีกทั้งลดปัญหามลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากใช้การสกัดด้วย
เทคนิคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยต่อผู้บริโภค


คำสำคัญ

  • เซียนท้อ
  • สารต้านโรคความดันโลหิตสูง
  • สารต้านโรคเบาหวานชนิดที่ 2
  • สารต้านอนุมูลอิสระ
  • สารให้สี


กลุ่มสาขาการวิจัยเชิงกลยุทธ์


ผลงานตีพิมพ์

ไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง


อัพเดทล่าสุด 2025-10-01 ถึง 13:15